“ลิตเติ้ลเจอกับผมราว ๆ ปี 2005 ซึ่งตอนนั้นผมมีแมวตาบอดอยู่แล้ว 2 ตัว แต่ 2 ตัวนั้นต่างจากเธอตรงที่พวกมันมีดวงตา มีคนมาบอกผมว่ามีแมวหลบอยู่ที่ชายคาบ้านผมนะ ซึ่งเธออยู่กลุ่มแมวจรจัดที่
ไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร และเธอ...ก็ไม่มีดวงตาเลย ผมจึงตัดสินในที่จะอุปการะเธอไว้ ตอนที่ผมพาเธอมาบ้านครั้งแรก เธอหวาดกลัว และซ่อนตัวอยู่สักพัก สุดท้ายเธอก็ออกมา และสำรวจอพาทเมนต์ เธอเดินไปรอบๆ ด้วยท่าทีอย่างแมวตัวอื่นทั่วไป แต่เธออาจจะต้องใช้หนวดของเธอบ่อยเสียหน่อย และกระดิกมันไปมาด้วยสัญชาติญาณการระวังตัว” จอห์น โนเร็ม ผู้เป็นพ่อ กล่าว
และเมื่อเวลาผ่านไป เขาจึงได้สังเกตว่า เธอมักจะสะบัดหัวเธอแรงๆ และเบ้าตาทั้งสองของเธอก็กลวงลึกเข้าไปเรื่อย ๆ “ผมให้สัตวแพทย์หลายท่านวิเคราะห์เธอ และพวกเขาต่างลงความเห็นตรงกันว่าเธอน่าจะเคยติดเชื้ออะไรสักอย่าง และหนทางที่ดีที่สุดก็คือการเย็บมันขึ้นมา คุณหมอบอกผมหลังจากที่ทุกท่านตรวจดูเบ้าตาอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เธอมีลูกน์ตาที่ผิดรูป และมีขนาดเล็กมาก ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ได้พัฒนามาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเอามันออก และเย็บปิดดวงตาของเธอ เธอฟื้นตัวเร็วมาก และตอนนี้ก็มีขนสวยงามปกคลุมใบหน้าเธอ” ลิตเติ้ลไม่สะบัดหัว หรือรู้สึกเจ็บอีกต่อไปแล้ว
การที่เธอตาบอดไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับลิตเติ้ล “เธอทำตัวอย่างแมวปกติตัวหนึ่ง และปีนป่ายคอนโดแมวสูง 5 ฟุตได้ สบาย ๆ เธอนอนบนตักผม เล่นซนกับกล่อง ปีนเก้าอี้เพื่อโดดไปยืนบนโต๊ะกินข้าว และเดินตามทางด้วยความชำนาญ เธอทำได้แม้แต่การหาของเล่นที่หายไปในใต้เตียง หรือเก้าอี้นั่งเล่น และเธอยังชอบเล่นกับของเล่นที่มีเสียงด้วย”
ถึงลิตเติ้ลจะมองไม่เห็น แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตเธอสะดุดได้เลย “เธอเป็นแมวที่สุดยอดมาก และผมโชคดีจริง ๆ ที่มีเธอ”
ลิตเติ้ลเมื่อครั้งที่มาบ้านใหม่ของเธอครั้งแรก
ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อของเธอ และสัตวแพทย์ ลิตเติ้ลมีความสุขขึ้น และมีขนสวยงามปกคลุมใบหน้าเธอ
ถึงเวลาเหมียวงีบแล้วววว !
สบายจังงงง
เธอเจอของเล่นที่หายไปในใต้เตียง และเก้าอี้นั่งเล่นด้วย
ถึงลิตเติ้ลจะมองไม่เห็น แต่เธอก็เลิศไม่แพ้ใครนะ
ผู้แปลบทความ >>
ที่มา>>>
Photos courtesy of Josh Norem. Follow the Furrtographer and his kitty stories on Facebook.








About the Author

0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น