Featured Articles
All Stories

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557


ขณะที่คุณกำลังวุ่นวายกับกิจกรรมมากมายในชีวิตประจำวัน แต่เจ้าเหมียวที่บ้านกลับนอนอุตุอยู่ที่มุมโปรดของตัวเอง แหม...ช่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับคนอื่นบ้างเลยนะ แถมบางตัวยังเฉยชาแม้จะมีหนูตัวเบอเริ่มวิ่งตัดหน้าไปอีกด้วยแสนจะเจ็บใจและไม่น่าให้อภัยเลยสักนิด แถมยังไม่คุ้มค่ากับความรักที่อุตส่าห์ทุ่มเทไปให้ แบบนี้ต้องเรียกมาอบรมสั่งสอนกันเสียหน่อยแล้ว


          1. ปลุกแมวจากฝันหวาน

          เวลาที่เห็นแมวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอน เป็นภาพที่น่ารักดีอยู่ แต่ทว่าคงไม่ดีเท่าไหร่หากปล่อยให้แมวทำแบบนี้ไปตลอดทั้งวันและทุกวัน และน่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับแมวมากกว่า ถ้าหากแมวจะลุกขึ้นมาทำอย่างอื่นบ้าง โดยอาจจะเริ่มจากปลุกแมวขึ้นมาเล่นกับคุณ แล้วค่อย ๆ ฝึกให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มเติมไปทีละอย่าง


          2. ปิดประตูห้องสนิท

          หากคุณไม่อยากกลับมาเจอกับกองเสื้อผ้าที่แมวรื้อจนกระจาย หรือเห็นว่าแมวกำลังนอนอย่างสบายอารมณ์ในตะกร้าผ้าของคุณดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา ก็ควรล็อกประตูห้อง กับกลอนหน้าต่างให้สนิท และในเมื่อไม่มีที่ให้นอน คราวนี้แมวตัวดีของคุณจะเริ่มทำงานเสียที อย่างน้อย ๆ แค่แมวเดินไปเดินมาก็เป็นสัญญาณที่ดีแล้ว


          3. ดูแลเล็บแมวให้แหลมคมอยู่เสมอ

          เล็บ เป็นอาวุธเดียวที่แมวมีติดตัว ดังนั้นคุณควรหมั่นดูแลและตัดเล็บให้กับแมวของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะเล็บที่ยาวเกินไป นอกจากจะทำให้แมวเดินเหินไม่สะดวกแล้ว ยังเป็นอุปสรรคในเวลาที่แมวออกล่าเหยื่อด้วย เพราะหากแมวตะปบเหยื่อแล้วเล็บไม่คมพอ ก็คงไม่ต่างอะไรกับใช้มีดทื่อ ๆ หั่นเนื้อ ที่นอกจากจะทำให้เหยื่อรอดพ้นไปได้แล้ว แมวก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อซะเอง


          4. ทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำ

          อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า แมวเกลียดน้ำขนาดไหน และมักจะดิ้นทุกครั้งที่คุณจับไปอาบน้ำ แต่อย่างไรเสีย คุณไม่ควรตามใจแมวของตัวเองจนเกินไปนัก ทั้งนี้ควรเริ่มทำความสะอาดจากลำตัวไล่ไปจนถึงปลายเท้า เล็บ อุ้งเท้า แล้วค่อยตามด้วยก้นกับหาง เป็นส่วนสุดท้าย


          5. ให้แมวเปิดหูเปิดตา

          ในขณะที่คุณอยู่ในบ้านก็ควรจะเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้ เพราะความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายนอก จะช่วยกระตุ้นความสนใจให้กับแมวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลาที่มีสัตว์เล็ก สัตว์น้อย วิ่งไปวิ่งมารอบ ๆ ตัว


          6. ให้อาหารตรงเวลา

          การให้อาหารไม่ตรงเวลาเป็นการทำร้ายแมวทางอ้อมวิธีหนึ่ง ฉะนั้นหลังจากนี้เวลาที่แมวมาขอขนมหรืออาหารจากคุณ ไม่ควรจะยอมใจอ่อนให้อาหารกับแมว เพราะนอกจากจะทำให้นาฬิกาในตัวแมวแปรปรวนแล้ว ยังเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีอีกด้วย


           7. ให้เล่นกับกล่องเปล่า

          นิสัยอยากรู้อยากเห็นของแมว เป็นสิ่งที่รู้กันดีอยู่แล้ว ดังนั้นคุณอาจจะดึงจุดนี้มาใช้ก็ได้ อย่างเช่น ก่อนออกจากบ้านให้นำกล่องเปล่ามาวางเอาไว้ในที่ที่คุณคิดว่าแมวจะมองเห็น และเป็นจุดที่แมวเดินผ่านประจำ โดยหลังจากที่คุณปิดประตู แมวก็จะเริ่มออกสำรวจตรวจตรากล่องต้องสงสัยทันที เป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณแทบไม่ต้องออกแรงเลยสักนิด



        สาวกแมวหลายคนคงต้องทำใจหากแมวของตัวเองจะเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปบ้างแต่ทั้งนี้อย่าลืมว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของการเลี้ยงแมว ไม่ได้เลี้ยงเอาไว้เพื่อเป็นของประดับบ้าน ดังนั้น หากปล่อยให้เจ้าเหมียวนอนอืดอยู่เฉย ๆ สักวันมันคงกลายเป็นโรคอ้วนแน่นอน ซึ่งสิ่งที่จะตามมา คือ การมีโรคภัยไข้เจ็บสารพัดชนิดมารุมเร้า ดังนั้นบรรดาเจ้าของทั้งหลายควรให้พวกมันได้ขยับแข้งขยับขา และช่วยมันฝึกเรื่องการเรียนรู้บ้าง เป็นต้น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

7 วิธี ฝึกเหมียวขี้เกียจ ให้กลายเป็นแมวขยัน


ขณะที่คุณกำลังวุ่นวายกับกิจกรรมมากมายในชีวิตประจำวัน แต่เจ้าเหมียวที่บ้านกลับนอนอุตุอยู่ที่มุมโปรดของตัวเอง แหม...ช่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับคนอื่นบ้างเลยนะ แถมบางตัวยังเฉยชาแม้จะมีหนูตัวเบอเริ่มวิ่งตัดหน้าไปอีกด้วยแสนจะเจ็บใจและไม่น่าให้อภัยเลยสักนิด แถมยังไม่คุ้มค่ากับความรักที่อุตส่าห์ทุ่มเทไปให้ แบบนี้ต้องเรียกมาอบรมสั่งสอนกันเสียหน่อยแล้ว


          1. ปลุกแมวจากฝันหวาน

          เวลาที่เห็นแมวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอน เป็นภาพที่น่ารักดีอยู่ แต่ทว่าคงไม่ดีเท่าไหร่หากปล่อยให้แมวทำแบบนี้ไปตลอดทั้งวันและทุกวัน และน่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับแมวมากกว่า ถ้าหากแมวจะลุกขึ้นมาทำอย่างอื่นบ้าง โดยอาจจะเริ่มจากปลุกแมวขึ้นมาเล่นกับคุณ แล้วค่อย ๆ ฝึกให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มเติมไปทีละอย่าง


          2. ปิดประตูห้องสนิท

          หากคุณไม่อยากกลับมาเจอกับกองเสื้อผ้าที่แมวรื้อจนกระจาย หรือเห็นว่าแมวกำลังนอนอย่างสบายอารมณ์ในตะกร้าผ้าของคุณดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา ก็ควรล็อกประตูห้อง กับกลอนหน้าต่างให้สนิท และในเมื่อไม่มีที่ให้นอน คราวนี้แมวตัวดีของคุณจะเริ่มทำงานเสียที อย่างน้อย ๆ แค่แมวเดินไปเดินมาก็เป็นสัญญาณที่ดีแล้ว


          3. ดูแลเล็บแมวให้แหลมคมอยู่เสมอ

          เล็บ เป็นอาวุธเดียวที่แมวมีติดตัว ดังนั้นคุณควรหมั่นดูแลและตัดเล็บให้กับแมวของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะเล็บที่ยาวเกินไป นอกจากจะทำให้แมวเดินเหินไม่สะดวกแล้ว ยังเป็นอุปสรรคในเวลาที่แมวออกล่าเหยื่อด้วย เพราะหากแมวตะปบเหยื่อแล้วเล็บไม่คมพอ ก็คงไม่ต่างอะไรกับใช้มีดทื่อ ๆ หั่นเนื้อ ที่นอกจากจะทำให้เหยื่อรอดพ้นไปได้แล้ว แมวก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อซะเอง


          4. ทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำ

          อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า แมวเกลียดน้ำขนาดไหน และมักจะดิ้นทุกครั้งที่คุณจับไปอาบน้ำ แต่อย่างไรเสีย คุณไม่ควรตามใจแมวของตัวเองจนเกินไปนัก ทั้งนี้ควรเริ่มทำความสะอาดจากลำตัวไล่ไปจนถึงปลายเท้า เล็บ อุ้งเท้า แล้วค่อยตามด้วยก้นกับหาง เป็นส่วนสุดท้าย


          5. ให้แมวเปิดหูเปิดตา

          ในขณะที่คุณอยู่ในบ้านก็ควรจะเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้ เพราะความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นภายนอก จะช่วยกระตุ้นความสนใจให้กับแมวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลาที่มีสัตว์เล็ก สัตว์น้อย วิ่งไปวิ่งมารอบ ๆ ตัว


          6. ให้อาหารตรงเวลา

          การให้อาหารไม่ตรงเวลาเป็นการทำร้ายแมวทางอ้อมวิธีหนึ่ง ฉะนั้นหลังจากนี้เวลาที่แมวมาขอขนมหรืออาหารจากคุณ ไม่ควรจะยอมใจอ่อนให้อาหารกับแมว เพราะนอกจากจะทำให้นาฬิกาในตัวแมวแปรปรวนแล้ว ยังเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีอีกด้วย


           7. ให้เล่นกับกล่องเปล่า

          นิสัยอยากรู้อยากเห็นของแมว เป็นสิ่งที่รู้กันดีอยู่แล้ว ดังนั้นคุณอาจจะดึงจุดนี้มาใช้ก็ได้ อย่างเช่น ก่อนออกจากบ้านให้นำกล่องเปล่ามาวางเอาไว้ในที่ที่คุณคิดว่าแมวจะมองเห็น และเป็นจุดที่แมวเดินผ่านประจำ โดยหลังจากที่คุณปิดประตู แมวก็จะเริ่มออกสำรวจตรวจตรากล่องต้องสงสัยทันที เป็นวิธีง่าย ๆ ที่คุณแทบไม่ต้องออกแรงเลยสักนิด



        สาวกแมวหลายคนคงต้องทำใจหากแมวของตัวเองจะเนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปบ้างแต่ทั้งนี้อย่าลืมว่า จุดประสงค์ที่แท้จริงของการเลี้ยงแมว ไม่ได้เลี้ยงเอาไว้เพื่อเป็นของประดับบ้าน ดังนั้น หากปล่อยให้เจ้าเหมียวนอนอืดอยู่เฉย ๆ สักวันมันคงกลายเป็นโรคอ้วนแน่นอน ซึ่งสิ่งที่จะตามมา คือ การมีโรคภัยไข้เจ็บสารพัดชนิดมารุมเร้า ดังนั้นบรรดาเจ้าของทั้งหลายควรให้พวกมันได้ขยับแข้งขยับขา และช่วยมันฝึกเรื่องการเรียนรู้บ้าง เป็นต้น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

Posted at 11:15 |  by Lovely Cat Thailand

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556


หลายคนอาจคาดว่านี้เป็นคลิปการรังแกสัตว์ทั่วไปที่เราต้องพบเห็นชะตากรรมของแมวน้อยไร้ทางสู้ที่น่าสงสาร โดยจากคลิปจะเห็นว่าหญิงคนหนึ่งกำลังแกล้งแมวโดยการแตะหิมะใส่มัน ขณะเดียวกันแมวตัวดังกล่าวก็พยามเดินหนี แต่แล้วเรื่องนี้ก็ดันหักมุมตอนจบเมื่อแมวน้อยฮึดสู้ขึ้นมา

อย่าแกล้งเหมียว เดียวเหมียวจะเอาคืน


หลายคนอาจคาดว่านี้เป็นคลิปการรังแกสัตว์ทั่วไปที่เราต้องพบเห็นชะตากรรมของแมวน้อยไร้ทางสู้ที่น่าสงสาร โดยจากคลิปจะเห็นว่าหญิงคนหนึ่งกำลังแกล้งแมวโดยการแตะหิมะใส่มัน ขณะเดียวกันแมวตัวดังกล่าวก็พยามเดินหนี แต่แล้วเรื่องนี้ก็ดันหักมุมตอนจบเมื่อแมวน้อยฮึดสู้ขึ้นมา

Posted at 19:59 |  by Lovely Cat Thailand

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แมวทรงเลี้ยง ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9  เมื่อครั้งที่ทรงประทับอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์  ติโต คือ ชื่อ แมวทรงเลี้ยงของพระองค์


ติโต แมวเพศผู้ สมเด็จย่าทรงเลี้ยงคู่กับ ติต้า เพศเมีย
เมื่อครั้งประทับอยู่ที่ ตำหนักเมืองโลซาน ประเทศสวิสฯ ประมาณปี พ.ศ. 2487
สำหรับภาพชุดต่อไปนี้ มีชื่อชุดว่า


Roi Du Siam
ถ่ายเมื่อ: December 12, 1949
โดยช่างภาพ: Dmitri Kessel
ติโต เข้าเฝ้าในหลวงในเวลาที่พระองค์ทรงเปียโน













ภาพแห่งความทรงจำ 
ในหลวงรัชกาลที่ 8 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ พระพี่น้องเธอฯ
กับครอบครัวของ ติโต  
หมายเหตุ "ติโต" คือ ชื่อแฝงของ ประธานาธิบดีโยซิป โบรช (Josip Broz)
ของประเทศยูโกสลาเวีย เป็น นักต่อสู้ ผู้กล้าหาญ และมีเลือดรักชาติอย่างที่สุด
ผู้หาญสู้กับฮิตเลอร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยความองอาจ
รวมทั้งรักษาประเทศให้พ้นจากอำนาจของสหภาพโซเวียต
ในหลวงทรงประทับใจ ในตัวของ "ติโต"มาก พระองค์ทรงแปล"Tito"
เป็นพระราชนิพนธ์  "นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ"
ให้พสกนิกรคนไทยได้ประจักษ์ถึง วีรกรรมที่ควรจะจดจำของ "ติโต"
***********************************************
ขอบคุณข้อมูลการเขียนจาก วิกีพิเดีย







ติโต แมวทรงเลี้ยงของในหลวง (ทรงพระเจริญ)

แมวทรงเลี้ยง ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9  เมื่อครั้งที่ทรงประทับอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์  ติโต คือ ชื่อ แมวทรงเลี้ยงของพระองค์


ติโต แมวเพศผู้ สมเด็จย่าทรงเลี้ยงคู่กับ ติต้า เพศเมีย
เมื่อครั้งประทับอยู่ที่ ตำหนักเมืองโลซาน ประเทศสวิสฯ ประมาณปี พ.ศ. 2487
สำหรับภาพชุดต่อไปนี้ มีชื่อชุดว่า


Roi Du Siam
ถ่ายเมื่อ: December 12, 1949
โดยช่างภาพ: Dmitri Kessel
ติโต เข้าเฝ้าในหลวงในเวลาที่พระองค์ทรงเปียโน













ภาพแห่งความทรงจำ 
ในหลวงรัชกาลที่ 8 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ พระพี่น้องเธอฯ
กับครอบครัวของ ติโต  
หมายเหตุ "ติโต" คือ ชื่อแฝงของ ประธานาธิบดีโยซิป โบรช (Josip Broz)
ของประเทศยูโกสลาเวีย เป็น นักต่อสู้ ผู้กล้าหาญ และมีเลือดรักชาติอย่างที่สุด
ผู้หาญสู้กับฮิตเลอร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยความองอาจ
รวมทั้งรักษาประเทศให้พ้นจากอำนาจของสหภาพโซเวียต
ในหลวงทรงประทับใจ ในตัวของ "ติโต"มาก พระองค์ทรงแปล"Tito"
เป็นพระราชนิพนธ์  "นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ"
ให้พสกนิกรคนไทยได้ประจักษ์ถึง วีรกรรมที่ควรจะจดจำของ "ติโต"
***********************************************
ขอบคุณข้อมูลการเขียนจาก วิกีพิเดีย







Posted at 05:56 |  by Lovely Cat Thailand

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556



            หากน้องแมวของใครมีบาดแผลตามตัวที่เกิดจากการผ่าตัดหรือโรคต่าง ๆ และจำเป็นต้องใช้Elizabeth Collar ที่บางคนอาจเรียกสั้น ๆ ว่า คอลลาร์ หรือลำโพง ซึ่งเป็นอุปกรณ์พลาสติกที่ช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเลีย แทะ แกะ เกา บาดแผลของตัวเอง แต่ยังกังวลว่า น้องแมวจะทนกับเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้หรือไม่ เพราะมันมีขนาดค่อนข้างใหญ่เทอะทะ อาจจะสร้างความรำคาญให้กับน้องแมว หรือส่งผลให้น้องแมวเครียดโดยไม่รู้ตัว


  ดังนั้น เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว วันนี้เราจึงนำไอเดียดี ๆ จากคุณแม่หญิงไจโกะ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้แนะนำการทำคอลลาร์ราคาประหยัด แถมยังน่ารัก และใช้งานได้ดีมาฝากด้วยจ้า ซึ่งวิธีทำนั้นก็ง่ายนิดเดียว แต่ก่อนอื่นเรามาดูอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้กันก่อนจ้า

อุปกรณ์ :

            1. โฟมยาง EVA  สีต่าง ๆ ตามชอบ
            2. คัตเตอร์และกรรไกร
            3. โบสวย ๆ หรือของที่จะนำมาใช้ตกแต่ง


ขั้นตอนการทำ :

             1. เริ่มจากการวาดรูปทรงที่เราต้องการลงบนกระดาษ\

                      
             2. ตัดโฟมยาง EVA ตามทรงที่ต้องการ หรือจะตัดตามแบบเลยก็ได้

             3. เจาะรูตรงกลางให้พอดีการสวมหัวและคอของแมว


           4. ลองสอดนิ้วมือ 1 นิ้วระหว่างคอแมวกับรูกลางแผ่นโฟม เพื่อวัดว่าไม่คับหรือหลวมจนเกินไป

    
          5. ประดับตกแต่งตามใจชอบ


            เพียงเท่านี้เราก็จะได้คอลลาร์แฮนด์เมดที่มีรูปทรงเก๋ไก๋น่ารักไม่ซ้ำใครแล้วล่ะค่ะ คอลลาร์ที่ทำจากโฟมยาง EVA นี้ นอกจากจะมีราคาถูกว่าคอลลาร์พลาสติกแล้ว ยังเบาสบายคอ ทำให้น้องแมวกินข้าว กินน้ำได้สะดวก และช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

            อย่างไรก็ตาม อย่าลืมวัดความกว้างของคอลลาร์ให้เหมาะสมกับขนาดตัวของแมวด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้พวกมันสามารถสัมผัสกับบาดแผลของตัวเองได้ และหากใครได้ลองทำตามดูแล้ว ก็อย่าลืมแชะภาพถ่ายน่ารัก ๆ มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันบ้างนะคะ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณแม่หญิงไจโกะ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

D.I.Y. คอลลาร์แฮนด์เมด ลำโพงกันเลียสำหรับน้องแมว



            หากน้องแมวของใครมีบาดแผลตามตัวที่เกิดจากการผ่าตัดหรือโรคต่าง ๆ และจำเป็นต้องใช้Elizabeth Collar ที่บางคนอาจเรียกสั้น ๆ ว่า คอลลาร์ หรือลำโพง ซึ่งเป็นอุปกรณ์พลาสติกที่ช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเลีย แทะ แกะ เกา บาดแผลของตัวเอง แต่ยังกังวลว่า น้องแมวจะทนกับเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้หรือไม่ เพราะมันมีขนาดค่อนข้างใหญ่เทอะทะ อาจจะสร้างความรำคาญให้กับน้องแมว หรือส่งผลให้น้องแมวเครียดโดยไม่รู้ตัว


  ดังนั้น เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าว วันนี้เราจึงนำไอเดียดี ๆ จากคุณแม่หญิงไจโกะ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้แนะนำการทำคอลลาร์ราคาประหยัด แถมยังน่ารัก และใช้งานได้ดีมาฝากด้วยจ้า ซึ่งวิธีทำนั้นก็ง่ายนิดเดียว แต่ก่อนอื่นเรามาดูอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้กันก่อนจ้า

อุปกรณ์ :

            1. โฟมยาง EVA  สีต่าง ๆ ตามชอบ
            2. คัตเตอร์และกรรไกร
            3. โบสวย ๆ หรือของที่จะนำมาใช้ตกแต่ง


ขั้นตอนการทำ :

             1. เริ่มจากการวาดรูปทรงที่เราต้องการลงบนกระดาษ\

                      
             2. ตัดโฟมยาง EVA ตามทรงที่ต้องการ หรือจะตัดตามแบบเลยก็ได้

             3. เจาะรูตรงกลางให้พอดีการสวมหัวและคอของแมว


           4. ลองสอดนิ้วมือ 1 นิ้วระหว่างคอแมวกับรูกลางแผ่นโฟม เพื่อวัดว่าไม่คับหรือหลวมจนเกินไป

    
          5. ประดับตกแต่งตามใจชอบ


            เพียงเท่านี้เราก็จะได้คอลลาร์แฮนด์เมดที่มีรูปทรงเก๋ไก๋น่ารักไม่ซ้ำใครแล้วล่ะค่ะ คอลลาร์ที่ทำจากโฟมยาง EVA นี้ นอกจากจะมีราคาถูกว่าคอลลาร์พลาสติกแล้ว ยังเบาสบายคอ ทำให้น้องแมวกินข้าว กินน้ำได้สะดวก และช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

            อย่างไรก็ตาม อย่าลืมวัดความกว้างของคอลลาร์ให้เหมาะสมกับขนาดตัวของแมวด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้พวกมันสามารถสัมผัสกับบาดแผลของตัวเองได้ และหากใครได้ลองทำตามดูแล้ว ก็อย่าลืมแชะภาพถ่ายน่ารัก ๆ มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันบ้างนะคะ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณแม่หญิงไจโกะ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม 

Posted at 08:19 |  by Lovely Cat Thailand


             ผุดกระแสใหม่ออกมาได้เรื่อย ๆ จริง ๆ สำหรับท่าถ่ายรูปกับแมวเหมียวในอาณัติ ไม่ว่าจะเป็นจับแมวเหมียวมาทำเครา ทำผม ล่าสุดมีเทรนด์ใหม่ออกมาอีกแล้ว คราวนี้ทาสแมวทั้งหลายพากันแปลงร่างเป็นมนุษย์แมวกันถ้วนหน้า

             เทรนด์การถ่ายรูปกับแมวเหมียวระลอกใหม่นี้ เรียกว่า "แคทแมน" หรือ "แคทวูแมน" แล้วแต่เพศสภาพของเจ้าของแมวเมียวทั้งหลาย ซึ่งท่านี้ก็ทำได้ง่าย ๆ อย่างที่เห็น คือจับเจ้าเหมียวในอาณัติมาวางไว้บนศีรษะ ให้หัวของเจ้าเหมียวมาบังบริเวณตากับจมูกของคุณ เพียงเท่านี้ก็จะแปลงร่างเป็นแคทแมน แคทวูแมนกันแล้ว
             เอาจริง ๆ ดูแล้วก็เป็นการถ่ายรูปที่น่ารักไปอีกแบบ แต่จะถ่ายก็ต้องดูอารมณ์เจ้าแมวเหมียวดี ๆ นะ ไม่งั้นละก็อาจทำให้มีแผลขีดข่วนได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว














เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก whyevolutionistrue.wordpress.com

คนรักเหมียวผุดกระแสถ่ายรูปใหม่ แคทแมน



             ผุดกระแสใหม่ออกมาได้เรื่อย ๆ จริง ๆ สำหรับท่าถ่ายรูปกับแมวเหมียวในอาณัติ ไม่ว่าจะเป็นจับแมวเหมียวมาทำเครา ทำผม ล่าสุดมีเทรนด์ใหม่ออกมาอีกแล้ว คราวนี้ทาสแมวทั้งหลายพากันแปลงร่างเป็นมนุษย์แมวกันถ้วนหน้า

             เทรนด์การถ่ายรูปกับแมวเหมียวระลอกใหม่นี้ เรียกว่า "แคทแมน" หรือ "แคทวูแมน" แล้วแต่เพศสภาพของเจ้าของแมวเมียวทั้งหลาย ซึ่งท่านี้ก็ทำได้ง่าย ๆ อย่างที่เห็น คือจับเจ้าเหมียวในอาณัติมาวางไว้บนศีรษะ ให้หัวของเจ้าเหมียวมาบังบริเวณตากับจมูกของคุณ เพียงเท่านี้ก็จะแปลงร่างเป็นแคทแมน แคทวูแมนกันแล้ว
             เอาจริง ๆ ดูแล้วก็เป็นการถ่ายรูปที่น่ารักไปอีกแบบ แต่จะถ่ายก็ต้องดูอารมณ์เจ้าแมวเหมียวดี ๆ นะ ไม่งั้นละก็อาจทำให้มีแผลขีดข่วนได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว














เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก whyevolutionistrue.wordpress.com

Posted at 08:01 |  by Lovely Cat Thailand

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556



          โดยปกติทุกบ้านต้องทำความสะอาดกันเป็นประจำอยู่แล้ว และส่วนใหญ่คงจะเลือกใช้อุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยลดระยะเวลาในการทำความสะอาดลง แต่สำหรับคนที่เลี้ยงแมวอาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะคงไม่มีเจ้าของคนไหนอยากให้แมวที่ตัวเองเฝ้าฟูมฟักมาต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพเป็นแน่ ส่วนจะทำอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยดีกว่า

 1. หลีกเลี่ยงเคมีภัณฑ์


          อย่างที่รู้กันดีว่า เคมีภัณฑ์ทำความสะอาดแต่ละชนิดมีอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นหากคุณต้องการทำความสะอาดบ้านของตัวเอง ควรจะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและหันมาใช้สารธรรมชาติแทน อย่างเช่น ใช้น้ำผสมน้ำส้มสายชูแทนน้ำยาเช็ดกระจก หรือฉีดเพื่อกำจัดเชื้อราตามผนังบ้าน เป็นต้น นอกจากฤทธิ์กัดกร่อนจะน้อยกว่าแล้ว กลิ่นของส่วนผสมเหล่านี้ยังไม่รบกวนระบบหายใจ ทั้งของแมวและของคุณด้วย



 2. เก็บอุปกรณ์ให้ห่างจากแมว

          ถ้าการพยายามหาอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ระบุว่า ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง เป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้นควรหันกลับมาใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดชิ้นเดิมของคุณดีกว่าเพียงแต่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของแมวด้วย เช่น การเก็บอุปกรณ์ไว้ในที่มิดชิด ส่วนของมีคมก็ควรสวมปลอกป้องกันให้เรียบร้อย นอกจากนี้ อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ละอองในอากาศ จับตัวกันเป็นก้อนฝุ่น จนกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของแมว

 3. ทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน

          สาเหตุที่ควรทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน เนื่องจากเป็นการป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ และทำให้บรรยากาศภายในบ้านน่าอยู่ ทั้งเจ้าของและแมวสามารถหายใจได้อย่างเต็มปอด ส่วนวิธีทำความสะอาดไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่นำกระบะทรายไปล้างด้วยน้ำสบู่กับน้ำเปล่า จากนั้นก็นำไปตากอากาศให้ทรายกับกระบะแห้งสนิทก่อนนำมาใช้ใหม่อีกครั้ง


 4. เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

         ถึงแม้ว่าสิ่งของดังกล่าวจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสิ่งของทั่วไป แต่มันก็คุ้มค่าสมราคาอยู่เหมือนกัน นอกจากคุณจะช่วยลดปัญหาเรื่องโลกร้อนแล้ว ในขณะเดียวกันยังมั่นใจได้ว่า สิ่งของเหล่านี้ปลอดภัยกับสุขภาพของแมว ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน

         ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ 9 ชีวิต แต่ถ้าแมวของคุณต้องเผชิญกับกลิ่นหรือสารเคมีตกค้าง จากพวกเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ที่หลงเหลืออยู่ภายในบ้าน แมวแสนรักของคุณก็อาจมีสุขภาพที่ย่ำแย่ได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดี ควรทำความสะอาดบ้านด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ หรือของใช้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งจะผลดีต่อตัวคุณด้วยเช่นกัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

บ้านสะอาด แมวปลอดภัย จัดการได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง



          โดยปกติทุกบ้านต้องทำความสะอาดกันเป็นประจำอยู่แล้ว และส่วนใหญ่คงจะเลือกใช้อุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยลดระยะเวลาในการทำความสะอาดลง แต่สำหรับคนที่เลี้ยงแมวอาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะคงไม่มีเจ้าของคนไหนอยากให้แมวที่ตัวเองเฝ้าฟูมฟักมาต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพเป็นแน่ ส่วนจะทำอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยดีกว่า

 1. หลีกเลี่ยงเคมีภัณฑ์


          อย่างที่รู้กันดีว่า เคมีภัณฑ์ทำความสะอาดแต่ละชนิดมีอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นหากคุณต้องการทำความสะอาดบ้านของตัวเอง ควรจะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและหันมาใช้สารธรรมชาติแทน อย่างเช่น ใช้น้ำผสมน้ำส้มสายชูแทนน้ำยาเช็ดกระจก หรือฉีดเพื่อกำจัดเชื้อราตามผนังบ้าน เป็นต้น นอกจากฤทธิ์กัดกร่อนจะน้อยกว่าแล้ว กลิ่นของส่วนผสมเหล่านี้ยังไม่รบกวนระบบหายใจ ทั้งของแมวและของคุณด้วย



 2. เก็บอุปกรณ์ให้ห่างจากแมว

          ถ้าการพยายามหาอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ระบุว่า ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง เป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้นควรหันกลับมาใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดชิ้นเดิมของคุณดีกว่าเพียงแต่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของแมวด้วย เช่น การเก็บอุปกรณ์ไว้ในที่มิดชิด ส่วนของมีคมก็ควรสวมปลอกป้องกันให้เรียบร้อย นอกจากนี้ อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ละอองในอากาศ จับตัวกันเป็นก้อนฝุ่น จนกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของแมว

 3. ทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน

          สาเหตุที่ควรทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน เนื่องจากเป็นการป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ และทำให้บรรยากาศภายในบ้านน่าอยู่ ทั้งเจ้าของและแมวสามารถหายใจได้อย่างเต็มปอด ส่วนวิธีทำความสะอาดไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่นำกระบะทรายไปล้างด้วยน้ำสบู่กับน้ำเปล่า จากนั้นก็นำไปตากอากาศให้ทรายกับกระบะแห้งสนิทก่อนนำมาใช้ใหม่อีกครั้ง


 4. เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

         ถึงแม้ว่าสิ่งของดังกล่าวจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสิ่งของทั่วไป แต่มันก็คุ้มค่าสมราคาอยู่เหมือนกัน นอกจากคุณจะช่วยลดปัญหาเรื่องโลกร้อนแล้ว ในขณะเดียวกันยังมั่นใจได้ว่า สิ่งของเหล่านี้ปลอดภัยกับสุขภาพของแมว ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน

         ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ 9 ชีวิต แต่ถ้าแมวของคุณต้องเผชิญกับกลิ่นหรือสารเคมีตกค้าง จากพวกเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ที่หลงเหลืออยู่ภายในบ้าน แมวแสนรักของคุณก็อาจมีสุขภาพที่ย่ำแย่ได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดี ควรทำความสะอาดบ้านด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ หรือของใช้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งจะผลดีต่อตัวคุณด้วยเช่นกัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

Posted at 07:21 |  by Lovely Cat Thailand

ภาพจาก Design Sponge

          เหล่าสาวกแมวต่างรู้กันดีว่า ของเล่นและที่นอนสำหรับแมวนั้น ถึงแม้จะเป็นของจากแบรนด์ดังหรือของที่มีราคาแพง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นสิ่งของที่เหมาะสมกับแมวของเราเสมอไป นอกจากนี้แมวแต่ละตัวมักจะมีมุมส่วนตัวกันอยู่แล้ว อย่างเช่น ในตระกร้าใส่ผ้า บนตู้สูง ๆ หรือกองหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากของใหม่ที่เราซื้อไปนอนไม่สบายเหมือนมุมเหล่านั้น สุดท้ายแมวก็จะกลับไปนอนที่เดิมอยู่ดี ดังนั้นวันนี้เราจึงนำวิธีการทำเตียงฝนเล็บจาก Tails Pet มาฝากกัน

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม


           กระดาษลัง

           กระดาษกาว

           กาวแท่งกับปืนยิงกาว

           ดินสอ

           ยางลบ

           ผ้า กระดาษสี หรืออื่น ๆ สำหรับใช้ตกแต่ง


วิธีทำ

           1. วัดขนาดความสูงพร้อมกับใช้ดินสอขีดเส้นตามขนาดที่คุณต้องการตามแนวนอน (ความกว้างของหน้ากระดาษควรอยู่ที่ 4 นิ้วหรือมากกว่านั้น) เพื่อทำเป็นเครื่องหมายไว้ใช้ในการตัด

           2. หลังจากที่วัดขนาดและขีดเส้นเสร็จแล้ว ให้ใช้คัตเตอร์หรือกรรไกรตัดตามรอยดินสอที่วาดเอาไว้ในขั้นตอนแรก ทั้งนี้ ความกว้างของหน้ากระดาษควรจะมีขนาดหน้ากว้างเท่ากันตลอดทั้งแนว และเท่ากันทุกชิ้น ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของลังกระดาษที่คุณนำมาใช้

           3. นำแผ่นกระดาษลังที่ตัดแล้ว มาม้วนทบเข้าด้วยกันตามแนวกระดาษลูกฟูกที่ซ่อนอยู่ด้านใน ดังนั้นในขั้นตอนแรกจึงแนะนำให้คุณตัดกระดาษลังตามแนวนอน เพราะจะทำให้ลังกระดาษงอตัวง่ายและอยู่ทรงมากกว่า

           4. หมุนแกนกลางของม้วนกระดาษลังให้แน่น และหลังจากที่ม้วนเสร็จแล้ว ยึดปลายกระดาษลังเข้ากับม้วนกระดาษลังด้วยกระดาษกาวหรือกาวแท่งที่เตรียมเอาไว้ 

           5. นำกระดาษลังแผ่นอื่นมาม้วนประกบไปเรื่อย ๆ โดยยึดแถบกระดาษลังเหล่านั้นด้วยกระดาษกาวหรือกาวแท่งเช่นเดียวกับขั้นตอนข้างต้น แต่ก่อนที่จะติดปลายกระดาษ ควรตรวจเช็กให้แน่ใจด้วยว่า ขอบกระดาษลังเรียบเสมอกันทุกส่วน

           6. ม้วนกระดาษลังเข้าหากันจนได้ที่นอนแมวตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นตกแต่งขอบเตียงฝนเล็บด้านนอกด้วยผ้าลาย กระดาษสี หรืออื่น ๆ ที่เตรียมเอาไว้ โดยใช้กาว


เคล็ดลับ

           1. นำแผ่นฝนเล็บวางเอาไว้ตามจุดที่แมวมักจะใช้ฝนเล็บบ่อย ๆ อย่างเช่น ด้านบนของตู้ไม้ หรือกองหนังสือพิมพ์ เป็นต้น หลังจากที่แมวฝนเล็บจนหน้ากระดาษลังเริ่มหลุดลุ่ย ให้ตัดหน้ากระดาษลังออก จากนั้นนำแผ่นฝนเล็บมาต่อด้านล่าง และทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

           2. ของที่นำมาตกแต่งควรจะเป็นสิ่งของที่ปลอดภัยกับ โดยเฉพาะชนิดของสีที่คุณนำมาใช้ 

           หลังจากคุณประดิษฐ์ที่นอนสำหรับแมวเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณอาจต้องใช้กลิ่นจากผงหรือใบแคทนิปมาช่วยดึงดูดความสนใจจากแมวด้วย และไม่ว่าคุณจะประดับด้วยของตกแต่งใด ๆ อย่าลืมยึดความสบายกับความปลอดภัยของแมวไว้เป็นอันดับแรกนะคะ

 ภาพจาก Tails Pet


                                            ภาพจาก Design Sponge 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tails Pet 

D.I.Y. เปลี่ยนกระดาษลังเหลือใช้เป็นเตียงฝนเล็บแมวสุดน่ารัก


ภาพจาก Design Sponge

          เหล่าสาวกแมวต่างรู้กันดีว่า ของเล่นและที่นอนสำหรับแมวนั้น ถึงแม้จะเป็นของจากแบรนด์ดังหรือของที่มีราคาแพง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นสิ่งของที่เหมาะสมกับแมวของเราเสมอไป นอกจากนี้แมวแต่ละตัวมักจะมีมุมส่วนตัวกันอยู่แล้ว อย่างเช่น ในตระกร้าใส่ผ้า บนตู้สูง ๆ หรือกองหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งถ้าหากของใหม่ที่เราซื้อไปนอนไม่สบายเหมือนมุมเหล่านั้น สุดท้ายแมวก็จะกลับไปนอนที่เดิมอยู่ดี ดังนั้นวันนี้เราจึงนำวิธีการทำเตียงฝนเล็บจาก Tails Pet มาฝากกัน

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม


           กระดาษลัง

           กระดาษกาว

           กาวแท่งกับปืนยิงกาว

           ดินสอ

           ยางลบ

           ผ้า กระดาษสี หรืออื่น ๆ สำหรับใช้ตกแต่ง


วิธีทำ

           1. วัดขนาดความสูงพร้อมกับใช้ดินสอขีดเส้นตามขนาดที่คุณต้องการตามแนวนอน (ความกว้างของหน้ากระดาษควรอยู่ที่ 4 นิ้วหรือมากกว่านั้น) เพื่อทำเป็นเครื่องหมายไว้ใช้ในการตัด

           2. หลังจากที่วัดขนาดและขีดเส้นเสร็จแล้ว ให้ใช้คัตเตอร์หรือกรรไกรตัดตามรอยดินสอที่วาดเอาไว้ในขั้นตอนแรก ทั้งนี้ ความกว้างของหน้ากระดาษควรจะมีขนาดหน้ากว้างเท่ากันตลอดทั้งแนว และเท่ากันทุกชิ้น ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของลังกระดาษที่คุณนำมาใช้

           3. นำแผ่นกระดาษลังที่ตัดแล้ว มาม้วนทบเข้าด้วยกันตามแนวกระดาษลูกฟูกที่ซ่อนอยู่ด้านใน ดังนั้นในขั้นตอนแรกจึงแนะนำให้คุณตัดกระดาษลังตามแนวนอน เพราะจะทำให้ลังกระดาษงอตัวง่ายและอยู่ทรงมากกว่า

           4. หมุนแกนกลางของม้วนกระดาษลังให้แน่น และหลังจากที่ม้วนเสร็จแล้ว ยึดปลายกระดาษลังเข้ากับม้วนกระดาษลังด้วยกระดาษกาวหรือกาวแท่งที่เตรียมเอาไว้ 

           5. นำกระดาษลังแผ่นอื่นมาม้วนประกบไปเรื่อย ๆ โดยยึดแถบกระดาษลังเหล่านั้นด้วยกระดาษกาวหรือกาวแท่งเช่นเดียวกับขั้นตอนข้างต้น แต่ก่อนที่จะติดปลายกระดาษ ควรตรวจเช็กให้แน่ใจด้วยว่า ขอบกระดาษลังเรียบเสมอกันทุกส่วน

           6. ม้วนกระดาษลังเข้าหากันจนได้ที่นอนแมวตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นตกแต่งขอบเตียงฝนเล็บด้านนอกด้วยผ้าลาย กระดาษสี หรืออื่น ๆ ที่เตรียมเอาไว้ โดยใช้กาว


เคล็ดลับ

           1. นำแผ่นฝนเล็บวางเอาไว้ตามจุดที่แมวมักจะใช้ฝนเล็บบ่อย ๆ อย่างเช่น ด้านบนของตู้ไม้ หรือกองหนังสือพิมพ์ เป็นต้น หลังจากที่แมวฝนเล็บจนหน้ากระดาษลังเริ่มหลุดลุ่ย ให้ตัดหน้ากระดาษลังออก จากนั้นนำแผ่นฝนเล็บมาต่อด้านล่าง และทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

           2. ของที่นำมาตกแต่งควรจะเป็นสิ่งของที่ปลอดภัยกับ โดยเฉพาะชนิดของสีที่คุณนำมาใช้ 

           หลังจากคุณประดิษฐ์ที่นอนสำหรับแมวเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณอาจต้องใช้กลิ่นจากผงหรือใบแคทนิปมาช่วยดึงดูดความสนใจจากแมวด้วย และไม่ว่าคุณจะประดับด้วยของตกแต่งใด ๆ อย่าลืมยึดความสบายกับความปลอดภัยของแมวไว้เป็นอันดับแรกนะคะ

 ภาพจาก Tails Pet


                                            ภาพจาก Design Sponge 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tails Pet 

Posted at 07:16 |  by Lovely Cat Thailand

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เชิญชมภาพสุดฮา ที่สุดในรอบปี เหมียวๆโดนแกล้ง จัดฉาก  จับเหมียวๆใส่ถุงน่องสุดฮา กำลังโด่งดัง บนโลกอินเตอร์เน็ต

ขายาว เรียวสวยจุงเบย










ที่มา eonline
Meowfit/Tumblr

เทรนใหม่ จับเหมียวๆใส่ถุงน่องสุดฮา กำลังโด่งดัง บนโลกอินเตอร์เน็ต

เชิญชมภาพสุดฮา ที่สุดในรอบปี เหมียวๆโดนแกล้ง จัดฉาก  จับเหมียวๆใส่ถุงน่องสุดฮา กำลังโด่งดัง บนโลกอินเตอร์เน็ต

ขายาว เรียวสวยจุงเบย










ที่มา eonline
Meowfit/Tumblr

Posted at 07:11 |  by Lovely Cat Thailand

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองที่ไม่รู้จักมาก่อน ปกติแล้วเราก็ต้องสนใจ อยากจะรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของที่นั่นใช่ไหมล่ะครับ แต่กับบางคนแล้ว ความสุขของพวกเขาก็เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ แค่การได้ถ่ายรูป เล่นกับแมวเท่านั้นเอง ถ้าหากจะมีเมืองไหนที่คุณสามารถพบเห็นเจ้าเหมียวได้ทั่วแล้วแล้วล่ะก็ ขอเชิญพบกับ "แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนรักเหมียว" ทั้ง 6 ที่นี้ได้เลยครับ


1. กรุงเก่าของเหล่าแมว ณ โรม, อิตาลี
อดีตอาณาจักรอันแสนจะรุ่งเรืองในสมัยก่อน เต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายทั่วเมือง รวมถึงแมวเร่ร่อนด้วย ซึ่งพวกมันก็อยู่อย่างกลมกลืน เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของซากโบราณ แถมยังกลายเป็นส่วนเสริมให้ภาพถ่ายของนักท่องเที่ยวดูดีขึ้นเป็นกอง ถึงขนาดมีคนนำรูปของแมวจรเหล่านี้มาจัดทำเป็นโปสการ์ด และปฏิทิน ชุด "gatti di Roma" (แมวเหมียวแห่งกรุงโรม) ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
น้องแมวที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ตามอัตถภาพแต่อย่างใด เพราะเขามีอาสาสมัครมาคอยให้ข้าวให้น้ำ ฉีดวัคซีน ให้กับมัน จากสมาคม "Torre Argentina Roman Cat Sanctuary" ซึ่งจะคอยระดมทุนเพื่อช่วยเหลือ หาอาหาร และยารักษาโรค


2. เกาะสวรรค์ของแมว เกาะทาชิโรจิมา และเกาะไอโนะชิมา, ญี่ปุ่น
ที่ประเทศญี่ปุ่นมีเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "Cat Island" อยู่สองแห่ง ที่แรกคือ เกาะทาชิโรจิมา (Tashirojima) อยู่ที่จังหวัดมิยาหงิ ว่ากันว่าประชากรแมวที่อาศัยอยู่นั้น นั้นมีมากกว่าคนเสียอีก โดยพวกมันได้รับการเลี้ยงดูปูเสื่อโดยชาวประมงของที่นั่น ซึ่งเชื่อกันว่าหากเอาของกินไปให้แมวแล้วจะช่วยให้การจับปลาเป็นไปอย่างราบรื่น แถมยังมีศาลเจ้าบูชาเทพแมวอยู่ทั่วเกาะอีกด้วย


เกาะที่สองชื่อว่า เอโนะจิมา (Enoshima) ใช้เวลาเดินทางโดยเรือ 20 นาที จากท่าที่เมืองฟุคุโอกะ โดยมีแมวกลุ่มใหญ่ มานั่งเล่นนอนเล่น รอคอยนักท่องเที่ยวอยู่ที่ท่าเรือ ที่เกาะนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องจุดดูนกอีกด้วย


3. หมู่บ้านแมว เมืองหูต่ง, ไต้หวัน
เมืองหู่ตง แต่เดิมเป็นเมืองเศรษฐกิจทำเหมือง ช่วงปี 1990 แต่หลังจากเหมืองถ่านหินปิดตัวลง ชาวบ้านก็อพยพไปทำงานในเมือง จนหมู่บ้านแห่งนี้แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง แล้วหลังจากนั้น เจ้าเหมียวก็เข้ามายึดครอง...
หมูบ้านนี้จึงโด่งดังขึ้นมาอีกครั้ง ในฐานะเมืองสำหรับการถ่ายภาพแมว ที่นี่มีเหมียวกว่าร้อยชีวิต คอยออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร และด้วยความที่เมืองนี้ห่างจากกรุงไทเปแค่ชั่วโมงเดียวด้วยทางรถไฟ ทำให้มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นทุกๆ สุดสัปดาห์


4. เมืองแมวชายทะเล คัลคัน, ตุรกี
เมืองคัลคันเป็นเมืองชายทะเลเมดิเตอเรเนียน มีนักท่องเที่ยวมากมายหลั่งไหลมาตากอากาศในช่วงหน้าร้อน รวมถึงเล่นกับแมวด้วย ที่นี่ยังมีกลุ่มอาสาที่เหนียวแน่น ชื่อว่า KAPSA คอยดูแล และรักษาแมวที่ป่วยก่อนจะปล่อยกลับที่เดิม 


5. บ้านแห่งแมว เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ โฮม แอนด์ มิวเซียม ที่ฟลอริด้า, สหรัฐอเมริกา
เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์  นักประพันธ์นวนิยาย และนักเขียนเรื่องสั้นชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง ช่วงปี พ.ศ. 2442-2504 อีกด้านหนึ่งของเขายังเป็นคนรักแมวแบบสุดๆ อีกด้วย ภายในบ้านซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้วก็ยังคงรับเลี้ยงแมวไว้กว่า 50 ตัว ดังเช่นเจตนารมณ์ของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ คอยเดินตรวจตราเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้


ที่มา : CNNTravel 
travel.truelife

หมู่บ้านแมว รอบโลก 5 แห่ง ที่คุณจะได้เจอเหมียว แบบทุกซอก ทุกมุม

การเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองที่ไม่รู้จักมาก่อน ปกติแล้วเราก็ต้องสนใจ อยากจะรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของที่นั่นใช่ไหมล่ะครับ แต่กับบางคนแล้ว ความสุขของพวกเขาก็เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ แค่การได้ถ่ายรูป เล่นกับแมวเท่านั้นเอง ถ้าหากจะมีเมืองไหนที่คุณสามารถพบเห็นเจ้าเหมียวได้ทั่วแล้วแล้วล่ะก็ ขอเชิญพบกับ "แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนรักเหมียว" ทั้ง 6 ที่นี้ได้เลยครับ


1. กรุงเก่าของเหล่าแมว ณ โรม, อิตาลี
อดีตอาณาจักรอันแสนจะรุ่งเรืองในสมัยก่อน เต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายทั่วเมือง รวมถึงแมวเร่ร่อนด้วย ซึ่งพวกมันก็อยู่อย่างกลมกลืน เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของซากโบราณ แถมยังกลายเป็นส่วนเสริมให้ภาพถ่ายของนักท่องเที่ยวดูดีขึ้นเป็นกอง ถึงขนาดมีคนนำรูปของแมวจรเหล่านี้มาจัดทำเป็นโปสการ์ด และปฏิทิน ชุด "gatti di Roma" (แมวเหมียวแห่งกรุงโรม) ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
น้องแมวที่นี่ก็ไม่ได้อยู่ตามอัตถภาพแต่อย่างใด เพราะเขามีอาสาสมัครมาคอยให้ข้าวให้น้ำ ฉีดวัคซีน ให้กับมัน จากสมาคม "Torre Argentina Roman Cat Sanctuary" ซึ่งจะคอยระดมทุนเพื่อช่วยเหลือ หาอาหาร และยารักษาโรค


2. เกาะสวรรค์ของแมว เกาะทาชิโรจิมา และเกาะไอโนะชิมา, ญี่ปุ่น
ที่ประเทศญี่ปุ่นมีเกาะที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "Cat Island" อยู่สองแห่ง ที่แรกคือ เกาะทาชิโรจิมา (Tashirojima) อยู่ที่จังหวัดมิยาหงิ ว่ากันว่าประชากรแมวที่อาศัยอยู่นั้น นั้นมีมากกว่าคนเสียอีก โดยพวกมันได้รับการเลี้ยงดูปูเสื่อโดยชาวประมงของที่นั่น ซึ่งเชื่อกันว่าหากเอาของกินไปให้แมวแล้วจะช่วยให้การจับปลาเป็นไปอย่างราบรื่น แถมยังมีศาลเจ้าบูชาเทพแมวอยู่ทั่วเกาะอีกด้วย


เกาะที่สองชื่อว่า เอโนะจิมา (Enoshima) ใช้เวลาเดินทางโดยเรือ 20 นาที จากท่าที่เมืองฟุคุโอกะ โดยมีแมวกลุ่มใหญ่ มานั่งเล่นนอนเล่น รอคอยนักท่องเที่ยวอยู่ที่ท่าเรือ ที่เกาะนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องจุดดูนกอีกด้วย


3. หมู่บ้านแมว เมืองหูต่ง, ไต้หวัน
เมืองหู่ตง แต่เดิมเป็นเมืองเศรษฐกิจทำเหมือง ช่วงปี 1990 แต่หลังจากเหมืองถ่านหินปิดตัวลง ชาวบ้านก็อพยพไปทำงานในเมือง จนหมู่บ้านแห่งนี้แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง แล้วหลังจากนั้น เจ้าเหมียวก็เข้ามายึดครอง...
หมูบ้านนี้จึงโด่งดังขึ้นมาอีกครั้ง ในฐานะเมืองสำหรับการถ่ายภาพแมว ที่นี่มีเหมียวกว่าร้อยชีวิต คอยออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร และด้วยความที่เมืองนี้ห่างจากกรุงไทเปแค่ชั่วโมงเดียวด้วยทางรถไฟ ทำให้มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นทุกๆ สุดสัปดาห์


4. เมืองแมวชายทะเล คัลคัน, ตุรกี
เมืองคัลคันเป็นเมืองชายทะเลเมดิเตอเรเนียน มีนักท่องเที่ยวมากมายหลั่งไหลมาตากอากาศในช่วงหน้าร้อน รวมถึงเล่นกับแมวด้วย ที่นี่ยังมีกลุ่มอาสาที่เหนียวแน่น ชื่อว่า KAPSA คอยดูแล และรักษาแมวที่ป่วยก่อนจะปล่อยกลับที่เดิม 


5. บ้านแห่งแมว เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ โฮม แอนด์ มิวเซียม ที่ฟลอริด้า, สหรัฐอเมริกา
เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์  นักประพันธ์นวนิยาย และนักเขียนเรื่องสั้นชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง ช่วงปี พ.ศ. 2442-2504 อีกด้านหนึ่งของเขายังเป็นคนรักแมวแบบสุดๆ อีกด้วย ภายในบ้านซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้วก็ยังคงรับเลี้ยงแมวไว้กว่า 50 ตัว ดังเช่นเจตนารมณ์ของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ คอยเดินตรวจตราเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้


ที่มา : CNNTravel 
travel.truelife

Posted at 09:06 |  by Lovely Cat Thailand
© 2013 lovelycat-th. WP Theme-junkie converted by BloggerTheme9
Blogger templates. Proudly Powered by Blogger.
back to top